คลิปไฮไลท์ เอฟเอ คัพ แมนฯ ซิตี้ 1-2 วีแกน
Manchester City 1-2 Wigan
เอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีม
วันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม 2557
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-2 วีแกน แอธเลติก
สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
ประตู : 0-1 ฆอร์ดี้ โกเมซ น. 27 (จุดโทษ), 0-2 เจมส์ เพิร์ช น. 47, 1-2 ซาเมียร์ นาสรี่ น. 68
Highlights
27′ 0-1 (pen.) Jordi Gomez // 46′ 0-2 James Perch // 68′ Samir Nasri 1-2
##
ไฮไลท์ฟุตบอล ## สามารถดูได้บน Smart Phone:
[videojs mp4=”http://fsvideoprod.edgesuite.net/video/Fox_Sports_Production/7/47/3_fsc_140309_fa_fullManCityWig_web_1400.mp4″]
Full Match ดูบอลย้อนหลัง ## สามารถดูได้บน Smart Phone:
West Bromwich Albion v. Manchester United
ครึ่งแรก
ผิดคาด…เรือครองเกมแต่ไม่มีโอกาสยิง
เกมช่วง 10 นาทีแรก”เรือใบสีฟ้า”ครองเกมได้ก็จริงแต่จังหวะยิงประตูแทบไม่มีเพราะวีแกนลงไปตั้งรับกันได้อย่างมีระเบียบทำให้โอกาสของทั้งสองทีมนั้นไม่ได้มีให้ลุ้นกันเท่าไร
ยังบดกันที่แดนกลาง
รูปเกมช่วงถัดมาซิตี้ก็ยังแทบไม่มีโอกาสยิงเลยโดยเกมในช่วงนี้เป็นการสู้กันอยู่กลางสนามมากกว่าที่จะเป็น”เรือใบสีฟ้า”พับสนามบุกกะเอาประตูให้ได้
เนเกรโด้ทะยานโขกไม่ถึง
เกมผ่าน 20 นาทีมาแล้ว”เรือใบสีฟ้า”ได้แค่เสียวไม่ใช่จังหวะยิงประตูเมื่อนาสรี่ได้บอลทางริมเส้นด้านซ้ายก่อนจะตักมาที่เสาไกลหวังให้เนเกรโด้ทะยานไปโขกจมตาข่ายแต่ดาวยิงสแปนิชก็ไปไม่ถึงบอลทำให้ออกหลังไปเท่านั้น
อั๊ยยะ!โกเมซซัดโทษวีแกนพลิกนำก่อน
แต่แล้วนาทีที่ 27 ซิตี้มาเสียจุดโทษในจังหวะที่เดมิเคลิสไปแซะด้านหลังของฟอร์จูนล้มลงในกรอบเขตโทษด้านซ้ายทำให้โกเมซได้สังหารจุดโทษและยิงด้วยซ้ายเข้าไปตุงตาข่ายสบายๆ ตอนนี้วีแกนขึ้นนำแบบสุดเหลือเชื่อแล้ว
เรือทรงไม่ดีแฟนเหี่ยวเฉา
เกมของ”เรือใบสีฟ้า”ไม่ได้ดีขึ้นเลยพวกเขาแทบไม่สามารถหาโอกาสทำประตูได้และนาทีที่ 37 มีเหตุชุลมันกันเล็กน้อยในจังหวะที่ทั้งแม็คอาร์เธอร์และโกเมซโดนไล่เสียบล้มลงไปทำให้นักเตะทั้งสองทีมกรูเข้ามาเกือบจะมีเรื่องกันแต่ก็ไม่ได้มีเหตุอะไรบานปลายไปมากกว่าการใช้วาจาแลกน้ำลาย
วีแกนกดดันเตะมุม 3 รอบ
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บกลับเป็นฝั่งของวีแกนที่ได้กดดันจากลูกเตะมุมถึง 3 ครั้งแต่”เรือใบสีฟ้า”ยังสามารถเคลียร์ทิ้งพ้นอันตรายไปได้หมดก่อนจบเกมในครึ่งแรกแบบผิดคาดเมื่อ”แชมป์เก่า”รักษาสกอร์นำเอาไว้ได้
ครึ่งหลัง
ช็อก!วีแกนยิงอีกนำห่าง 2-0
เริ่มครึ่งหลังมาไม่ถึงนาทีดีแฟนเจ้าถิ่นต้องช็อคกันตาตั้งเมื่อแม็คมานามานก็บตกบอลได้จากนอกกรอบเขตโทษแล้วเลี้ยงตลุยผ่านเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนจ่ายไปที่เสาสองที่มีเพิร์ชวิ่งมาล้มตัวยิงคู่กับกลีชี่ที่พยายามสกัดก่อนที่บอลจะวิ่งเข้าไปตุงตาข่าย
เรือหมดมุขเปลี่ยน 3 ตัวรวด
เกมมาถึงนาทีที่ 53 มานูเอล เปเญกรินี่ตัดสินใจทุ่มสุดตัวเปลี่ยนนักเตะ 3 คนรวดโดยส่งเอดิน เชโก้, ดาบิด ซิลบาและเจมส์ มิลเนอร์ลงสนามไปแทนนาบาส, เนเกรโด้และตูเร่ที่โดนคาดใบเหลืองทำให้เล่นยากแล้ว
วันเรือแตก!?เชโก้โขกงามชนเสาซะงั้น
เวลา 60 นาทีผ่านไปเรียบร้อยรูปเกมเป็นทางฝั่งของ”เรือใบสีฟ้า”ที่ครองเกมบุกอยู่ฝ่ายเดียวและเกือบได้ประตูตีไข่แตกเหลือเกินในจังหวะที่กลีชี่ตั้งป้อมเปิดจากริมเส้นด้านซ้ายไปทางเสาไกลมีเชโก้โถมขึ้นโยกย้อนมาบอลเหมือนจะเข้าอยู่แล้วแต่ไปชนโคนเสาซ้ายมือซิลบาที่อยู่ตรงนั้นพยายามตามซ้ำแต่บอลก็กระดอนไปอีกทางเรียกว่าวันนี้อาจไม่ใช่วันของพวกเขาแล้ว
กุนซัดอีกติดมือคาร์สัน
หลังจากนั้นซิตี้ก็มีโอกาสอีกครั้งคราวนี้เป็นมิลเนอร์ที่เติมขึ้นมาด้านขวาก่อนครอสเข้ากลางเชโก้โขกไม่ถึงเลยปล่อยให้กุนวิ่งเข้ามาแประยะ 10 หลาแต่บอลก็ไปตรงตัวของคาร์สันที่รับเอาไว้ได้สบาย
นับหนึ่ง!นาสรี่หวดตุงเรือตีไข่แตก
แต่บทจะได้ก็ได้ง่ายๆเลยสำหรับ”เรือใบสีฟ้า”ที่ได้ประตูตีไข่แตกในจังหวะที่ริชาร์ดส์โขกบอลกลับหลังตั้งให้นาสรี่ตั้งป้อมหวดด้วยซ้ายนอกกรอบเขตโทษระยะ 20 หลาบอลกระดอนพื้นก่อนผ่านมือของคาร์สันเข้าไปเป็นประตูจุดประกายความหวังของเจ้าถิ่นแล้ว
ทำอัลไล!ฟอร์จูนหลุดเป็นแผงเลือกยิงเอง
นาทีที่ 71 กองหลังซิตี้พลาดแล้วแต่ฟอร์จูนตัดสินใจไม่ดีแทนที่จะส่งให้เพื่อนที่วิ่งทำทางไปแบบไม่มีใครประกบแล้วกลับตัดสินใจยิงเองจากระยะ 35 หลาบอลก็ลอยโด่งข้ามคานออกไปไม่ได้ลุ้นชนิดที่รอสเลอร์ทำหน้าเซ็งอยู่ข้างสนาม
แฟนเรือกระตุกบอยซ์เคลียร์จากตีนเชโก้
เกมเข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายแล้วซิตี้ยังคงตั้งหน้าตั้งตาบุกอย่างหนักแต่กองหลังวีแกนวันนี้ก็ทำหน้าที่ได้ดีเหลือเกินและจังหวะใกล้เคียงที่สุดเป็นจังหวะที่มิลเนอร์ได้บอลทำชิ่งเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาแล้วปาดเข้ากลางเชโก้จะยิงอยู่แล้วแต่บอยซ์มาช่วยชีวิตเคลียร์ออกหลังไปได้แบบโคตรเทพ
เชโก้โขกอีกหลุดกรอบนิดเดียว
นาทีที่ 84 ซิตี้น่าได้ประตูเหลือเกินคราวนี้เป็นจังหวะที่มิลเนอร์ตั้งป้อมโยนจากด้านขวาของสนามไปให้เชโก้เทคตัวขึ้นโขกคนเดียวโล่งๆคาร์สันขาตายไปแล้วแต่บอลเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้นเอง
เรือยิงไม่ได้กระเด็นตกรอบ 8 ทีม
แม้จะพยายามเท่าไหร่ซิตี้ก็ไม่สามารถเจาะประตูตีเสมอได้ทำให้ต้องพ่ายวีแกนแบบแสบสันต์ตจอดป้ายเอฟเอ คัพเพียงแค่รอบ 8 ทีมส่วน”ลาติกส์”ผ่านไปเจออาร์เซน่อลที่เวมบลีย์ในรอบตัดเชือกแบบหล่อๆ
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม :
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : คอสเตล ปานติลิม่อน 6, ไมก้าห์ ริชาร์ดส์ 6, โจลีออน เลสค็อตต์ 3, มาร์ติน เดมิเคลิส 2, กาแอล กลีชี่ 4, ฆาบี การ์เซีย 2, ยาย่า ตูเร่ 2 (ดาบิด ซิลบา 6 น. 53), ซาเมียร์ นาสรี่ 7
, เฆซุส นาบาส 4(เอดิน เชโก้ 4 น. 53), อัลบาโร่ เนเกรโด้ 2(เจมส์ มิลเนอร์ 6
น. 53), เซร์คิโอ อเกวโร่ 5
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : โจ ฮาร์ท, แวงซ็องต์ กอมปานี, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ, แจ็ค ร็อดเวลล์
วีแกน แอธเลติก : สกอตต์ คาร์สัน 7, สตีเฟ่น เครนนี่ย์ 6, คริส แม็คแคนน์ 7(โธมัส บาร์เน็ตต์ น. 46), เอ็มเมอร์สัน บอยซ์ 9*, อีวาน รามิส 7, เจมส์ เพิร์ช 7
, โจชัว แม็คอีชคราน 6(โรเจอร์ เอสปิโนซ่า
น. 67), ฆอร์ดี้ โกเมซ 7
, คัลลั่ม แม็คมานามาน 8 (เจมส์ แม็คคลีน น. 59), เจมส์ แม็คอาร์เธอร์ 8, มาร์ค-อองตวน ฟอร์จูน 8
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : อาลี อัล ฮับซี่, มาร์คัส โฮลเกอร์สสัน, นิคกี้ เมย์นาร์ด