คลิปไฮไลท์ ยูโรป้า ลีก ฟิออเรนติน่า 1-1 เอสเบิร์ก
Fiorentina 1-1 Esbjerg
วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ 2557
ฟุตบอลยูโรป้าลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดสอง
สนาม : อาร์เตมิโอ ฟรังคี่
วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ 2557
ฟิออเรนติน่า 1:1 เอสเบิร์ก
(รวมสองนัดฟิออเรนติน่าเข้ารอบด้วยสกอร์ 4-2)
ประตู : 1-0 อิลิซิช น.47, 1-1 เวสเตอร์การ์ด น.90+1
1-0 Ilicic (47′) // 1-1 Vestergaard (90′)
## ไฮไลท์ฟุตบอล ## สามารถดูได้บน Smart Phone:
[videojs mp4=”http://cdn.playwire.com/17003/video-20140227-644334.mp4″]
ครึ่งแรก
ออกสตาร์ทกันมากันแบบค่อยเป็นค่อยไปทั้งสองฝ่ายมีโอกาสได้ลองลุ้นกันไปแล้วเริ่มต้นที่อิลิซิชก่อนได้บอลหน้าเขตโทษทำท่าจะยิงด้วยซ้ายก่อนหักเข้าขวาแล้วซัดแฉลบแนวรับเอสเบิร์กสองคนก่อนไปหลุดเสาไกลนิดเดียว ฝั่งทีมเยือนก็มีโอกาสจากฟาน บูเรนโหม่งแต่ก็หลุดกรอบไป
เกมดำเนินค่อยเป็นค่อยไปไม่มีอะไรกันมากนักส่วนใหญ่เป็นบอลของฟิออเรนติน่าก่อนนาที 24 จะมีจังหวะบาเรโล่ตักบอลอกไปทางขวาให้กับอิลิซิชแล้วกระโดดพักอกเอาบอลลงได้สุดท้ายวิ่งมาซัดเลยแต่บอลเบาไปเข้ามือดูบราฟก้าไม่ยากเย็น
โอกาสของ”ม่วงมหากาฬ”มาอีกครั้งนึงด้วจังหวะเตะมุมทางขวารับหน้าที่เปิดโดยอิลิซิชเลือกโยนมาทางเสาไกลก่อนเป็นคอมปป์เปอร์เบียดเอาชนะได้โหม่งสะบัดกะจะให้เสียบเสาแต่ยังไม่แม่นพอบอลหลุดออกหลังไปแบบพอได้ลุ้น
ฟิออเรนติน่ายังได้บุกต่อเนื่องแต่ก็ไม่ค่อยเฉียบคมเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเป็นลูกโหม่งซะมากกว่าหนแรกจากจังหวะเปิดฟรีคิกทางซ้ายให้ของอิลิซิชให้กอนซาเลซได้โหม่งแต่ก็หลุดกรอบ เช่นเดียวกับจังหวะเปิดจากขวาให้อัมโบรซินี่โหม่งอีกก็ไม่ตรงกรอบเช่นกัน
เข้านาที 36 ดูเป็นโอกาสได้ลุ้นมากขึ้นของฟิออฯหนนี้จากเกมขึ้นทางซ้ายปาเลโร่ไขว้ให้กับไรเดอร์วิ่งออกหลังหลุดขึ้นมาสวยก่อนค่อยลากตัดเข้าในเขตโทษมาสวยสุดท้ายจบลงด้วยการยิงแต่ยังตรงตัวดูบราฟก้าโดนรับเข้าซองไม่มีปัญหา
ฟิออเรนติน่ามาอีกหนจากอิลิซิชเรียกฟาวล์ได้ทางริมกรอบเขตโทษฝั่งขวาตั้งท่าเหมือนจะเปิดแต่สุดท้ายเล่นลูกสูตรจ่ายมาหน้าเขตโทษให้กับปิซาร์โร่รออยู่แล้ววิ่งมากดเต็มข้อเลยแต่บอลยังเลี้ยวไม่พอส่งหลุดกรอบออกหลังไปน่าเสียดาย สุดท้ายก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยเสมอกันอยู่ 0-0
ครึ่งหลัง
กลับมาครึ่งหลังนาทีกว่าๆ “ม่วงมหากาฬ”ก็ได้ประตูทะยานนำไปเรียบร้อยจากจังหวะได้ฟาวล์หน้าเขตโทษเยื้องมาทางขวานิดเดียวห่างจากหัวกะโหลกไม่มากก่อนจะเป็นอลิซิชจัดการปั่นข้ามกำแพงมาสวยแล้วโค้งหายซุกตาข่ายไปแบบสบายๆ ฟิออฯออกนำเรียบร้อย 1-0
โอกาสของฟิออเรนติน่ามาต่อเนื่องเลยได้ลุ้นอีกแล้วด้วยลูกเปิดจากทางขวามาหน้าเขตโทษแต่เลยหลังบาเรโล่ไปแล้ว ยังดีมีไรเดอร์วิ่งถอยมาจับบอลได้ก่อนยิงทันทีแต่ทำได้เพียงแค่หลุดเสาแรกออกหลัง
นาที 53 มีโอกาสให้ทั้งสองทีมได้ประตูเลยเริ่มต้นที่เอสเบิร์กก่อนนีลเซ่นไปเก็บบอลเปิดมาแดนหน้าแล้วคอมปป์เปอร์พลาดไปลื่นเลยโดนนีลเซ่นเลี้ยงหลุดมาเฉยๆแต่สุดท้ายยิงติดเซฟโรซาติ ก่อนฟิออฯจะโดต้กลับขึ้นมาบาเลโร่ออกบอลไปทางขวาสุดที่อิลิซิชแต่เข้าซ้ายตามด้วยสับไกหน้าเขตโทษติดแฉลบลอยหลุดคานไป
เกมส่วนใหญ่ก็ยังเป็นของฟิออเรนติน่าเหมือนเดิมฝั่งเอสเบิร์กทำอะไรไม่ค่อยได้ซักเท่าไหร่ โดยโอกาสอีกครั้งของเจ้าบ้านจากบอลฝากให้กับบากิชตรงหน้าเขตโทษก่อนยิงไกล 25 หลาเข้ามาเลยแต่สุดท้ายบอลหลุดกรอบออกหลังแบบได้ลุ้น
เข้านาที 73 ฟิออเรนติน่าเกือบจะมีลูกสองแล้วอาศัยบอลจากกลางสยามวางยาวขึ้นหน้าตูมเดียวเข้าเขตโทษแล้วทางซ้ายที่ปาสกวาลวิ่งแล่บเข้าไปแล้วบอลตกใส่เท้าพอดีก็เลือกยิงสวนเลยแต่ดูบราฟก้ายังผวาปัดออกหลังทันหวุดหวิดจริงๆ
ท้ายเกมเอสเบิร์กเกือบได้ประตูตีไข่แตกมาแล้วจากจังหวะแรกอันเกอร์เซ่นพยายามยิงไกลฝ่าเข้าไปแต่บอลมาเข้าทางของนีลเซ่นหน้าเขตโทษก่อนโชว์สกิลม้วนหนีคอมปป์เปอร์ได้สวนเลยก่อนง้างไกยิงเข้าไปแต่บอลก็ยังทำได้แค่หลุดเสาไปอีก
ฟิออเรนติน่าเกือบมีประตูเพิ่มเป็นการส่งท้ายด้วยบอลของปิซาร์โร่ฝากให้กับบาเลโร่ข้างหน้าพอพลิกกลับไปเห็นไม่มีคนขวางกองกลางชาวสเปนก็เลยขอลองส่องเองซะเลยซัดไกลหาเสาแรกแต่ดูบราฟก้ายังไม่ยอมบินทุบทันท่วงที
แต่ทดเจ็บเอสเบิร์กยังกู้หน้ากลับมาได้ไล่ตามตีเสมอสำเร็จจากบอลโต้กลับทิ้งออกมาทางขวาให้กับเวสเตอร์การ์ดเลี้ยงจี้ใส่คอมปป์เปอร์ก่อนแตะผ่านมาแบบดื้อๆเลยแล้วซัดผ่านโรซาติเข้าประตูไปจนได้ กลายเป็นกลับมาเสมอ 1-1
สุดท้ายจบเกมฟิออเรนติน่าเสมอกับเอสเบิร์กแต่ยังผ่านเข้ารอบไปได้ด้วยสกอร์รวม 4-2 โดยรอบ 16 ทีมสุดท้ายจะได้เจอกับยูเวนตุสทีมที่มาจากชาติเดียวกัน
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
ฟิออเรนติน่า : อันโตนิโอ โรซาติ, กอนซาโล่ โรดริเกซ (โทโมวิช น.60), ฟาคุนโด้ รอนคาญ่า, มาร์วิน คอมป์เปอร์, มานูเอล ปาสกวาล (วาร์กัส น.79), ดาวิด ปิซาร์โร่, บอร์ฆา บาเลโร่, มัสซิโม่ อัมโบรซินี่ (บากิช น.65), โจซิป อิลิซิช, ไรเดอร์ มาตอส, มาริโอ โกเมซ
เอสเบิร์ก : มาร์ติน ดูบราฟก้า, ดาวิดสัน โดรโบ-เอมเพม, ไรอัน ลอร์เซ่น, โจนาส คนุดเซ่น, มาร์ติน เบิร์กโวลด์, เจปป์ อันเดอร์เซ่น (เลคเวน น.68), เจอร์รี่ ลูเซน่า, เจสเปอร์ ราสมุสเซ่น (วาสเตอร์การ์ด น.42), มิค ฟาน บูเรน, คาสเปอร์ นีลเซ่น, มาร์ติน ปูซิช (อันเกอร์สัน น.57)